Скачать с ютуб ย้อนรอยผลงานกุนซือ เลสเตอร์ หลังคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก l สิงห์สนามฟุตบอล в хорошем качестве

ย้อนรอยผลงานกุนซือ เลสเตอร์ หลังคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก l สิงห์สนามฟุตบอล

ย้อนรอยผลงานกุนซือ เลสเตอร์ หลังคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก . ถือว่าเป็นข่าวใหญ่สำหรับการแยกทางกันระหว่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กับ เลสเตอร์ ซิตี้ แม้จะไม่ใช่เรื่องที่เซอร์ไพรส์ แต่น่าใจหายมากพอสมควร ร็อดเจอร์ส นั่งแท่นเก้าอี้ตัวนี้มานานถึง 4 ปี พาทีมประสบความสำเร็จคว้าโทรฟี่แชมป์มาครอบครอง ทว่าด้วยผลงานในฤดูกาลนี้ต้องยอมรับว่าน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก ภายหลังร่วงลงไปอยู่ในโซนตกชั้น แถมผลงานในสนามรูปแบบการเล่นดูไม่ค่อยไฉไลมากนัก ซึ่งการแยกทางครั้งนี้เป็นการเจรจาพูดคุย ก่อนลงเอยด้วยความยินยอมด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย แน่นอนถ้าว่าจะกันตามผลงาน และความสำเร็จนายใหญ่ชาวไอร์แลนด์เหนือสามารถถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโค้ชที่ดีที่สุดของสโมสร และวัดจากสถิติ ร็อดเจอร์ส ดีที่สุดนับตั้งแต่ทีมสร้างเทพนิยายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอง ว่าแล้วสิ่งที่เราอยากจะนำเสนอในวันนี้คือย้อนชมผลงานของเหล่ากุนซือทัพ จิ้งจอกสยาม นับตั้งแต่หมดยุค เคลาดิโอ รานิเอรี่ หรือคว้าแชมป์ลีกครั้งล่าสุดเมื่อปี 2016 กันหน่อยว่าผลงานของโค้ชคนไหนเป็นอย่างไรกันบ้าง คนแรก - เคร็ก เช็คสเปียร์ ประเดิมคนแรกที่เข้ามาทดแทนด้วยบทบาทกุนซือขัดตาทัพ ก่อนได้อยู่แบบยาวๆ ภายหลังทีมแยกทางกับ รานิเอรี่ ซึ่งตอนนั้น เช็คสเปียร์ เป็นผู้ช่วยของนายใหญ่ชาวอิตาลี แน่นอนว่าเมื่อมีการปลดแบบฟ้าผ่าทีมก็ย่อมเอาคนในมาคุมทีมซ้อม และลงสนามไปก่อนในช่วงหานายใหญ่คนใหม่ ทว่าผลงานในช่วงขัดตาทัพของ เช็คสเปียร์ นั้นดีเหลือเกินประเดิมเกมแรกด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 ก่อนเก็บชัยอีก 5 นัดติดต่อกันจนนำมาซึ่งการถูกแต่งตั้งคุมทีมแบบถาวร ซึ่งนี่คือการจับงานเป็นกุนซือครั้งแรกของเจ้าตัว เพราะที่ผ่านมาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชมาโดยตลอดทั้งกับ เวสต์บรอมวิช, ฮัลล์ ซิตี้ ก่อนมาถึง เลสเตอร์ ซิตี้ หนึ่งในไฮไลท์ของนายใหญ่รายนี้คือการพา เลสเตอร์ กรุยทางถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการหักด่าน เซบีย่า ในรอบก่อนหน้า ก่อนไปโดนยักษ์ใหญ่อย่าง แอต.มาดริด เขี่ยตกรอบไปอย่างหวุดหวิด จบซีซั่นแรกพาทีมจากโซนตกชั้นไปจบที่อันดับ 12 แบบสวยงาม ทว่าชุดเปลี่ยนมาอยู่ที่ซีซั่นถัดมาเนื่องจากออกสตาร์ทด้วยผลงานไม่ดีนัก พร้อมร่วงไปรั้งในโซนตกชั้น ก่อนนำมาซึ่งการถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนตุลาคม 2017 สถิติของเจ้าตัวกับ เลสเตอร์ คือการคุมทีมในทุกรายการไปทั้งหมด 26 เกม เก็บชัยชนะไป 11 นัด และเสมอ 6 แพ้ 9 ซึ่งระหว่างนั้นบอร์ดบริหารก็ให้ ไมเคิล แอปเปิลตัน คุมแบบขัดตาทัพไปก่อน 2 เกม จึงมีการแต่งตั้งนายใหญ่เข้ามาทำหน้าที่ คนที่สอง - โคลด ปูแอล หลังจากใช้กุนซือโนเนมอย่าง เคร็ก เช็คสเปียร์ อยู่ช่วงหนึ่ง เลสเตอร์ จัดการทาบทามกุนซือยอดฝีมือ และอดีตนักเตะชื่อดังอย่าง โคลด ปูแอล มาบัญชาการ เพราะด้วยประสบการณ์ที่โชกโชนในสายงานนี้พอสมควร ปูแอล สร้างชื่อสมัยเป็นนักเตะกับ โมนาโก สโมสรเดียวของเขาตลอดอาชีพ และเมื่อรีไทร์ก็กลับมารับงานคุมทีมในทันที และเป็นสถานีแรกในบทบาทใหม่ที่เผชิญ ชีวิตเส้นทางกุนซือของ ปูแอล ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย แม้จะวนเวียนอยู่กับการทำทีมในฝรั่งเศสทั้ง โมนาโก, ลีลล์, โอลิมปิก ลียง หรือ นีซ ก่อนข้ามมารับงานนอกบ้านเกิดครั้งแรกเมื่อปี 2016 กับ เซาแธมป์ตัน ในแดนน้ำหอม ปูแอล พา โมนาโสอยแชมป์ลีก เอิง มาครองได้ 1 สมัย เมื่อปี 2000 รวมไปถึงคว้าแชมป์ อินเตอร์ โตโต้ คัพ กับ ลีลล์ ได้ 1 ครั้ง ส่วนกับทัพ นักบุญ ผลงานถือว่าไม่ธรรมดา พาทีมจบอันดับ 8 ในศึกพรีเมียร์ลีก พร้อมทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ลีก คัพ ทว่าด้วยแนวทางที่แฟนบอลไม่ค่อยชอบใจมากนักทำให้โดนปลดจากตำแหน่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2017 ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็เป็น เลสเตอร์ ดึงตัวมาคุมทีม ผลงานกับทัพ จิ้งจอกสยาม อาจไม่ได้สวยหรูตลอดรอดฝั่งนัก พาทีมจบอันดับ 9 ในซีซั่นแรก ก่อนที่ในฤดูกาลถัดมาเหมือนกราฟที่ปักหัวลงเริ่มดำดิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุที่ทีมต้องยอมปลดออกจากตำแหน่งเพราะช่วงท้ายๆ กับทีม ปูแอล ไม่อาจพาทีมเก็บชัยชนะได้เลยติดต่อกันมากถึง 7 เกม ก่อนปิดฉากคุมทีมไว้ที่ 16 เดือน ทำสถิติพา เลสเตอร์ คว้าชัยชนะแค่เพียง 34% เท่านั้นจากการคุมทีม 67 นัด ส่วนหลังออกจาก เลสเตอร์ เจ้าตัวก็กลับไปรับงานในฝรั่งเศสกับ แซงต์ เอเตียน ซึ่งทำทีมได้อยู่ราวๆ 2 ปีเศษก็แยกทางกันไปช่วงเดือนธันวาคม 2021 และว่างงานจนถึงปัจจุบัน คนที่สาม - เบรนแดน ร็อดเจอร์ส หลังแยกทางกับ ปูแอล ทางฝั่ง เลสเตอร์ ก็ใช้โค้ชคู่คุมทัพอยู่ 1 เกม ก่อนกันไปดึงตัว ร็อดเจอร์ส เข้ามานั่งตำแหน่งกุนซือคนใหม่ ซึ่งในตอนนั้นนายใหญ่รายนี้ถือว่าผลงานกำลังยอดเยี่ยม เซลติก ที่พาทีมสอยแชมป์มาครองได้มากถึง 7 ครั้ง ในระยะเวลา 2 ปีกว่าๆ แน่นอนว่า ร็อดเจอร์ส มีประสบการณ์ทำงานในอังกฤษมาโชกโชนพอสมควรกับทั้ง วัตฟอร์ด, เรดดิ้ง, สอวนซี หรือ ลิเวอร์พูล ฉะนั้นไม่ต้องปรับตัวอะไรให้มากนัก ผลงานโดยรวมของ ร็อดเจอร์ส กับ เลสเตอร์ ถือว่าสร้างทีมให้มีความแข็งแกร่งมากพอสมควร พาทีมจบอันดับได้ไปเล่นบอลยุโรป 2 ปีติดต่อกันทั้ง ยูโรปา ลีก กับ คอนเฟอเรนซ์ ลีก ส่วนไฮไลท์สำคัญคือการพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2021 เมื่อครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นแชมป์ครั้งแรกของสโมสรที่คว้าโทรฟี่นี้มาครองได้ด้วย ก่อนต่อยอดไปสอยแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ ในซีซั่นถัดมา ส่วนเรื่องสถิติเก็บชัยชนะเป็นรองเพียง ไนเจอ เพียร์สัน คนเดียวเท่านั้นในรอบ 15 ปี โดย ร็อดเจอร์ส เก็บไปได้ 45% มากกว่า รานิเอรี่ อยู่นิดหน่อย ฉะนั้นไม่แปลกถ้าจะบอกว่ากุนซือรายนี้เป็นหนึ่งในบุคลากรในระดับตำนานของ เลสเตอร์ ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ทั้งเรื่องผลงานในสนาม และความสำเร็จที่พาทีมเอื้อมมือไปคว้ามา ส่วนกุนซือคนใหม่จะพา เลสเตอร์ กลับไปบินสูงกลับไปอยู่ในพื้นที่เดิมอีกครั้งได้หรือไม่ คงต้องคอยติดตามตอนต่อไปกันอีกครั้ง . สิงห์สนาม แหล่งรวมข่าวสารฟุตบอลทั่วโลก รวมถึง วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล ทุกวัน . #วิเคราะห์บอลวันนี้ #ข่าวฟุตบอลล่าสุด #บอลวันนี้ #เลสเตอร์ซิตี้ #มาแรง #สิงห์สนามฟุตบอล