Из-за периодической блокировки нашего сайта РКН сервисами, просим воспользоваться резервным адресом:
Загрузить через dTub.ru Загрузить через ycliper.com Загрузить через ClipSaver.ruУ нас вы можете посмотреть бесплатно AP LAW 41 "การฟอกเงิน คืออะไร" или скачать в максимальном доступном качестве, которое было загружено на ютуб. Для скачивания выберите вариант из формы ниже:
Роботам не доступно скачивание файлов. Если вы считаете что это ошибочное сообщение - попробуйте зайти на сайт через браузер google chrome или mozilla firefox. Если сообщение не исчезает - напишите о проблеме в обратную связь. Спасибо.
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru
AP LAW 41 "การฟอกเงิน คืออะไร" การฟอกเงิน คือการกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดให้ดูเสมือนว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้ “เงินสกปรก” หรือเงินที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้มาจากการกระทำความผิดให้ดูเหมือนเป็น “เงินสะอาด” เพื่อสามารถนำเงินที่ถูกฟอกไปใช้ในการกระทำความผิดอาญาต่อไป จุดประสงค์ของการฟอกเงินมักจะทำเพื่อปกปิดแหล่งที่มาของเงินสกปรก ซุกซ่อนทรัพย์สิน ปกปิดเจ้าของเงินที่แท้จริง ปกปิดแหล่งที่มาของเงินสกปรก และเพื่อทำให้ดูเหมือนว่าเงินหรือทรัพย์สินนั้นได้มาโดยถูกต้องตามกฎหมาย . การฟอกเงินนั้นทำได้หลายวิธี เช่น นำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดไปซื้อทรัพย์สินมูลค่าสูงหรือให้แก่บุคคลใกล้ชิด หรือนำเงินที่ได้จากการค้ามนุษย์มาเปิดบริษัทบังหน้า และนำเงินดังกล่าวมาเข้าสู่ระบบการเงินของบริษัทเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่รัฐ นำเงินที่ได้จากการฟอกเงินไปลงทุนในหุ้น พันธบัตร หรือสินทรัพย์ดิจิทัล การขนเงินสดผ่านแดน การฟอกเงินผ่านการประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์หรือประกันวินาศภัย การนำเงินสกปรกนั้นไปเล่นกาสิโนในต่างประเทศ การซื้อบัตรเงินสด การใช้บัญชีม้า หรือการใช้ธนาคารใต้ดิน(โพยก๊วน) เป็นต้น . การฟอกเงินนั้นเป็นความผิดทางอาญา มีสาระสำคัญ บทนิยาม และโทษทางอาญาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ดังนี้ . การกระทำความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 ของพระราชบัญญัตินี้ ผู้กระทำจะต้องมีการโอน รับโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง ขณะกระทำความผิดหรือหลังกระทำความผิดมูลฐาน ตามมาตรา 5 (1) กระทำการใดๆเพื่อปกปิดอำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มา การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ตามมาตรา 5 (2) หรือการได้มา ครอบครองหรือใช้ทรัพย์สินโดยรู้ว่าทรัพย์สินนั้นเกี่ยวกับการกระทำความผิด ตามมาตรา 5 (3) ผู้ใดที่กระทำการดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ถือว่ากระทำความผิดฐานฟอกเงิน และถ้าปรากฏว่าผู้กระทำผิดหรือผู้ร่วมกระทำความผิดคนใดคนหนึ่งเป็นคนไทย หรือผู้กระทำเป็นคนต่างด้าวที่กระทำผิดโดยประสงค์ให้ความผิดเกิดในราชอาณาจักร แม้จะกระทำผิดนอกราชอาณาจักรก็ต้องรับโทษในราชอาณาจักรตามมาตรา 6 และถ้าผู้ใดเป็นผู้สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด จัดหาหรือให้เงินหรือทรัพย์สิน ยานพาหนะ ที่พักอาศัย หรือที่ซ่อนเร้น หรือวัตถุใดๆ เพื่อช่วยผู้กระทำความผิดหลบหนี เพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ หรือเพื่อให้ผู้กระทำได้รับประโยชน์จากการกระทำความผิด ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับตัวการในการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ตามที่บัญญัติในมาตรา 7 และผู้ที่พยายามกระทำความผิดฐานฟอกเงินต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดสำเร็จตามมาตรา 8 . ผู้สมคบตามมาตรา 9 หากตกลงกันสองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดสำหรับความผิดฐานฟอกเงิน หากสมคบแล้วมีการกระทำตามที่สมคบ ผู้สมคบทั้งหมดต้องระวางโทษตามที่กำหนดในความผิดฐานฟอกเงิน หากมีการขัดขวางโดยผู้สมคบจนการกระทำนั้นกระทำไปไม่ตลอดหรือกระทำไปตลอดแล้วไม่บรรลุผล ผู้สมคบที่ขัดขวางต้องระวางโทษเพียงกึ่งหนึ่ง หากผู้กระทำความผิดกลับใจให้ความจริงแก้เจ้าหน้าที่ก่อนมีการกระทำความผิด ศาลจะไม่ลงโทษหรือลงโทษผู้นั้นน้อยกว่ากฎหมายกำหนดเพียงใดก็ได้ . โดยการฟอกเงินต้องเป็นเงินที่ได้มาจากความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 เช่น ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด การค้ามนุษย์ การฉ้อโกงประชาชน ยักยอกหรือฉ้อโกงหรือประทุษร้ายหรือกระทำโดยทุจริตตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันการเงินหรือกฎหมายว่าด้วยตลาดหลักทรัพย์ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือการยุติธรรม การกรรโชกหรือรีดเอาทรัพย์โดยอ้างอำนาจอั้งยี่ซ่องโจร การลักลอบหนีศุลกากร การก่อการร้าย ความผิดเกี่ยวกับการพนัน ความผิดเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกอั้งยี่ รับของโจร ปลอมแปลงเงินตรา ดวงตรา แสตมป์ ตั๋ว โจรสลัด หน่วงเหนี่ยวกักขัง ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เป็นต้น . โดยโทษของการฟอกเงินตามมาตรา 6 คือจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากนิติบุคคลเป็นผู้กระทำความผิด จะต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท . กล่าวโดยสรุป การฟอกเงินคือการนำเงินที่ได้จากความผิดมูลฐาน มาผ่านขั้นตอนหรือกระบวนการใดๆเพื่อให้ดูเสมือนว่าทรัพย์สินนั้นได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อปกปิดที่มา หรือเจ้าของทรัพย์สินนั้น เนื้อหาโดย กิตตินันท์ จารุกิจไพศาล Paralegal น.บ. (ธรรมศาสตร์)