Скачать с ютуб เต้ อาชีวะ สุดทน “หนุ่มเมียนม่าข่มขู่” สาวไทยพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิด พื้นที่ สน.บางขุนเทียน в хорошем качестве

เต้ อาชีวะ สุดทน “หนุ่มเมียนม่าข่มขู่” สาวไทยพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิด พื้นที่ สน.บางขุนเทียน

เต้ อาชีวะ พาสาวผู้เสียหายถูกหนุ่มเมียนม่าข่มขู่ เข้าแจ้งความเพิ่มเติม สน บางขุนเทียน วันที่ 30 เมษายน 2568 นายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือ เต้ อาชีวะ ได้พานางสาวรินรดา วรากรสิทธิชัย หรือ ลิน อายุ 28 ปี เดินทางมาที่ สน บางขุนเทียน เพื่อแจ้งความเพิ่มเติม นางสาวรินรดา วรากรสิทธิชัย ผู้เสียหาย เล่าว่า วันนี้ตนมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ขณะนี้อยู่ขั้นตอนระหว่างดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้วว่าจะแจ้งข้อหาใด ส่วนความล่าช้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าตนคิดมากไปเองนั้น เป็นสิ่งที่ตนยอมไม่ได้ ตนเป็นเพียงคนธรรมดา แต่กลับต้องมาใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัว แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยดำเนินการในส่วนของวันนี้ให้ แม้ว่าจะเป็นการเพิ่งมาดำเนินการหลังจากตนโพสต์ลงโซเชี่ยล และออกข่าวไปแล้วก็ตาม เนื่องจากตนมาที่ สน.บางขุนเทียน นี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุมาที่ สน. ตนก็พร้อมจะเผชิญหน้า เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด และนี่ก็เป็นประเทศไทย ตนก็เป็นคนไทย การที่ผู้ก่อเหตุมาอาศัยแผ่นดินไทย แล้วทำพฤติกรรมแบบนี้ ผู้ก่อเหตุควรจะมีจิตสำนึกบ้าง แล้วหากผู้ก่อเหตุได้ฟังอยู่ ตนอยากบอกว่า อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก และตนขอให้กรณีตนเป็นกรณีตัวอย่าง ให้ตำรวจเปลี่ยนความคิดว่า การที่เหตุยังไม่เกิด ไม่ได้หมายความว่าตนจะปลอดภัย และการที่ตนเลือกที่จะแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เพราะตนเชื่อในการทำงานของตำรวจ แต่ด้วยคำพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บอกว่าตนคิดมากไปเอง ทำให้ตนต้องเลือกมาขอความช่วยเหลือจากสื่อ ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องมีตำรวจกันแล้ว นายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือ เต้ อาชีวะ ประธานกลุ่มอาชีวะราชภักดี เปิดเผยว่า วันนี้ตนไปที่คอนโดให้นิติมาแจ้งบุกรุก และให้ผู้เสียหายมาแจ้งข้อหาบุกรุก และข่มขู่คุกคาม รวมทั้งให้ตำรวจไปตามตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้ โดยเหตุผลที่ตนออกมาครั้งนี้ เพื่อต้องการจะให้ตำรวจเปลี่ยนทัศนคติของตัวเอง เพราะที่ตำรวจพูดออกมาว่า ‘เหตุยังไม่เกิด‘ ควรต้องปรับใหม่ เพราะประชาชนหวังพึ่งตำรวจ ไม่ใช่ให้ตำรวจมาไล่ให้ผู้เสียหายไปหาหลักฐานมาเอง กลายเป็นว่าเจ้าของประเทศกลับต้องมากลัวต่างด้าว และถ้าเหตุมันเกิดไปแล้ว และเกิดการสูญเสียจะทำอย่างไร และตนขอฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจของเชียงใหม่คนนึง ที่ได้มีการคอมเมนท์ว่า ‘ก็เหตุมันยังไม่เกิด ตำรวจจะมีอำนาจอะไร’ ทั้ง ๆ ที่ตำรวจมีอำนาจเต็มที่ ตำรวจทำได้ แต่ไม่ทำมากกว่า ตนขอฝากไปถึงผู้การจังหวัดเชียงใหม่ ตนตั้งคำถามว่า ถ้าวันนี้ไม่มีสื่อ หรือโซเชี่ยล ผู้เสียหายจะเป็นอย่างไร