Из-за периодической блокировки нашего сайта РКН сервисами, просим воспользоваться резервным адресом:
Загрузить через dTub.ru Загрузить через ClipSaver.ruУ нас вы можете посмотреть бесплатно ฝ่านค้านฉะงบ กยศ. ใกล้ขาดสภาพคล่อง ‘จุลพันธ์’ ยันไม่ได้ถังแตก ยังไปต่อได้ | 30 พ.ค. 68 или скачать в максимальном доступном качестве, которое было загружено на ютуб. Для скачивания выберите вариант из формы ниже:
Роботам не доступно скачивание файлов. Если вы считаете что это ошибочное сообщение - попробуйте зайти на сайт через браузер google chrome или mozilla firefox. Если сообщение не исчезает - напишите о проблеме в обратную связь. Спасибо.
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru
วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 1 พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ปีนี้ได้รับจัดสรรเพิ่มขึ้น แต่ยังมีโครงสร้างคล้ายเดิม ทำให้แม้จะลงงบประมาณไปมากขึ้น แต่การศึกษาไทยก็ยังไม่ไปไหน ยังไม่ตอบโจทย์ผู้เรียนเช่นเดิม พรรคประชาชนจึงเสนอว่าการจะใช้งบการศึกษาให้ตรงจุดและคุ้มค่า เราต้องไปให้ไกลกว่าการแค่ปรับปรุง-เติมแต่งงบประมาณรายโครงการ แต่ต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภาพใหญ่ของงบการศึกษา ซึ่งจำเป็นต้อง Reset อย่างน้อย 6 ด้าน คือหลักสูตร ภาระงานครู กลไกลดความเหลื่อมล้ำ การลงทุนในเทคโนโลยี มูลค่าของใบปริญญา และบทบาทของรัฐในการส่งเสริมทักษะแรงงาน ปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึง งบประมาณของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลน้อยทุกปี โดยงบปีนี้ กยศ. ของบ 21,900 ล้านบาท แต่รัฐบาลจัดสรรให้แค่ 5,100 ล้านบาท ด้วยงบจำนวนเท่านี้ภายในสิ้นปี 2569 กยศ. จะขาดสภาพคล่องรุนแรงแน่นอน ปล่อยให้นักเรียน-นักศึกษาไทยที่รอความหวังจากเงินกู้ กยศ. ต้องยืนอยู่ที่ปากเหวอย่างเดียวดาย ปารมี เสนอแนะ 3 ประการ ให้รัฐบาลเร่งนำไปแก้ไข คือ 1. รัฐบาลจะต้องจัดสรรงบอย่างเพียงพอให้กับ กยศ. ตนได้ข้อมูลว่า กยศ. จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อปล่อยให้ผู้กู้ปีละประมาณ 42,000 ล้านบาท กยศ. คาดการณ์ว่าสามารถดำเนินการให้ผู้กู้ชำระคืนมาได้ปีละ 20,000 ล้านบาท รัฐบาลจึงต้องจัดสรรงบให้ กยศ. ปีละประมาณ 22,000 ล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนขอให้รัฐบาลใส่เป็นงบประมาณประจำปีอย่างชัดเจนในแต่ละปี 2. กยศ. ต้องแก้ปัญหาการบริหารจัดการระบบให้มีประสิทธิภาพ ทั้งประเด็นการคำนวณหนี้ใหม่ของผู้กู้ทุกราย ต้องเชิญชวนผู้กู้ให้เข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ และเร่งคืนเงินให้ผู้กู้ ที่ปรับโครงสร้างหนี้เสร็จแล้ว 3. กยศ. ต้องเร่งปรับปรุงระบบ กยศ. ดิจิทัล DSL ที่ กยศ. เพิ่งคัดเลือกได้บริษัทเปรมกรุ๊ปเอนจิเนียริง ในวงเงิน 345 ล้านบาท โดยอยากให้วางระบบ DSL นี้ ให้เสร็จทันตามกำหนดในเดือนภายในกุมภา 69 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้กู้ทุกคน และสำคัญที่สุด กยศ. ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมไทยให้ได้ว่า กยศ. มีประสิทธิภาพและมีความโปร่งใสในการทำงาน จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลุกตอบข้อซักถาม พริษฐ์ วัชรสินธุ และปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เกี่ยวกับเรื่องกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในเรื่องของการหักเงิน 3,000 บาท ว่า ทางกยศ.ได้มีการชะลอการแจ้งหักเงินเดือนของผู้กู้ยืมเดือนละ 3,000 บาท ตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป และขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์เร่งรัดให้ผู้กู้ยืมเข้ามาดำเนินการในเรื่องของการปรับโครงสร้างหนี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่ กลุ่มที่โดนหัก 3,000 บาท มีผู้ที่เข้าข่ายอยู่ราว 510,000 คน สามารถเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกองทุน หรือเข้ามาดำเนินการได้ที่สำนักงานกองทุน มีคนที่ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้ว 240,000 ราย ปิดบัญชีไปแล้ว 3,300 รายเศษ และมีมาชำระปรับยอดค้างให้เป็นปกติ ราว 39,200 กว่าราย มีผู้กู้ยืมที่ได้รับประโยชน์ไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 286,671 ราย มีคนที่ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ราว 224,000 ราย ที่จะต้องให้เข้ามาดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตาม มาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ. กยศ. ปี 60 ที่มีการแก้ไข "ส่วนที่มีการอภิปรายถึงว่า กยศ. อยู่ในสถานการณ์ค่อนข้างวิกฤต ที่ใช้คำว่าถังแตกนั้น ตนชี้แจงว่า ยัง และยังให้ความมั่นใจว่าผู้ที่มีสิทธิในการเข้าสู่การกู้ยืมในปีที่ผ่านมายังจะได้รับสิทธิ์ทั้งหมด เพราะทุกคนสามารถเข้ามากู้ยืมได้ ไม่ได้มีสะดุดติดขัดใดๆ" จุลพันธ์ กล่าวอีกว่า เมื่อปลายสมัยของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา มีการปรับแก้ไขกฎหมายพ.ร.บ. กยศ. ในเรื่องของกฎเกณฑ์เบี้ยปรับ ต่อมารัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน นำเรื่องการแก้ไขกฎหมาย กยศ. เข้าไปที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินเพื่อปรับให้คำนวณย้อนหลังไปตั้งแต่วันแรก เมื่อปรับวิธีการคิด สำหรับ กยศ. เองก็มีงานใหญ่ต้องมาคำนวณใหม่ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนกรกฎาคม และในปีงบประมาณนี้ กยศ. มีภาระ ในเรื่องของกรอบการกู้ยืมเงินราว 41,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กยศ. ขอรับจัดสรร 21,900 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 19,000 ล้านบาท กยศ. สามารถบริหารจัดการได้เอง สำนักงบประมาณจึงได้ปรับลดเหลือ 5,100 ล้านบาท จุลพันธ์ กล่าวว่า ในกระบวนการขั้นตอนงบประมาณ คนที่ปรับลดในเบื้องต้นคือสำนักงบประมาณ ซึ่งมีการไปคุยกับหน่วยงานแล้วว่าหากลดงบประมาณจะสามารถดำเนินการภารกิจให้กู้ยืมรวมทั้งหมด 41,000 ล้านบาทได้หรือไม่ ขณะเดียวกันตนเองได้ย้ำอยู่เสมอว่ามีกลไกอื่นๆ ในการที่จะเพิ่มเม็ดเงินเข้าไปในหน่วยงาน เช่น เรื่องของการแปรญัตติ หรือเติมงบกลางไปเพื่อประคับประคองสถานการณ์ ซึ่งรัฐบาลก็มีข้อจำกัด มีภารกิจในการช่วยเหลือประชาชน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะถมเม็ดเงินทั้งหมดมากองไว้ในจุดเดียว แต่ยืนยันว่าคนที่จะเข้ามากู้ยืมใหม่จะต้องได้รับโอกาสในการศึกษาครบทุกราย จุลพันธ์ ชี้ให้เห็นด้วยว่า ถ้ามีหนี้อยู่ 10 สถาบันการเงิน รวมกับ กยศ. ตัวเลือกสุดท้ายที่จะจ่ายคือ กยศ. เพราะเบี้ยปรับถูก ดอกเบี้ยต่ำ จึงได้ให้โจทย์กับทาง กยศ. ไปว่า คงไม่เลือกทางง่ายก็คือเติมเงินทั้งหมดไปให้ แต่ กยศ. ต้องปรับตัวด้วย ผู้กู้ยืมบางคนโตทำงานไปแล้วก็ยังเป็นภาระกันอยู่ บางคนก็โดนฟ้องร้องคนที่ไปค้ำประกันอีก กยศ. ต้องปรับกลวิธีเพื่อส่งต่อเม็ดเงินไปยังรุ่นถัดๆ ไป หากมีส่วนที่ขาดเกินอย่างไร ทางรัฐบาลยินดีเติมเม็ดเงินเข้าไปให้กองทุนสามารถให้บริการกับผู้กู้ได้อย่างครบถ้วน Time Index: 0:00 พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน 24:23 ปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน 38:12 จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง #ประชุมสภา #การเมือง #ประชาไท #prachatai